
เนื้อหานี้จะมาดูตัวอย่างและแนวทางการออกเสียงหรือการผันสระกับวรรณยุกต์ในภษาไทเหนือ ในตาราง(ฝักออกเสียงสระ)ด้านล่าง แถวแรกจะเป็นข้อมูลรูปของวรรุณยุกต์ โดยในภาษาไทเหนือจะเรียกวรรณยุกต์ว่าเสียง หรือเรียกเสียง 1 ถึงเสียง 6 โดยเสียง 1 จะไม่มีรูปหรือสัญลักษณ์ และจะมีรูปตั้งแต่เสียงที่ 2 ถึงเสียงที่ 6
ในภาษาไทเหนือ เรียกพยัญชนะ ว่า แม่เสียง (เมเสง)
เรียก สระเดี๋ยวว่า แม่จาบเดี่ยว (เมจาบเลว)
เรียก สระผสมว่า แม่จาบซ้อน (เมจาบซ้อน)

ในส่วนของคอลัมน์แรกในแนวตั้ง จะเป็นสระเสียงเดี่ยวทั้งหมด 10 ตัว เราได้อธิบายไปแล้วในบทความก่อนหน้า สามารถกลับไปทบทวนได้ เราจะเริ่มผันเสียงสระ อา จากแถวที่ 2 ไล่วรรณยุกต์หรือเสียงไปทางขวา ดูการออกเสียง โดยกดเล่นเสียงท้ายตารางด้านล่าง

ᥣ —– อา เสียงสามัญ *ตรง
ᥣᥰ —– อา-อ้า เสียงสามัญแล้วไปเสียงโท (บางครั้งเราใช้เสียงตรี)
ᥣᥱ —– อ่า เสียงเอก *ตรง
ᥣᥲ —– อ้า เสียงโท *ตรง
ᥣᥳ —– อ๊า เสียงตรี (เสียงสั้นไม่ลากยาว ออกเสียงคล้าย อ๊ะ)
ᥣᥴ —– อ๋า เสียงจัตวา *ตรง
* การเทียบกับวรรณยุกต์ไทย อาจจะเทียบได้ไม่ตรงทุกตัว ให้เข้าใจตามนี้เป็นคร่าวๆ
วรรณยุกต์ในภาษาไทเหนือ เราจะเรียกเป็น เสียง จะมี 1 – 6 ตัวที่ไม่มีรูป เราจะเรียกเป็นเสียง 1 และไล่ไปตามลำดับด้านบนจากซ้ายไปขวา ถึงเสียง 6

เสียง 1 จะมีไม่มีรูปของเสียง แต่เสียงที่ 2 – 6 มีรูปเสียงตามตัวอย่าง สำหรับบรรทัดที่ 3 จะเป็นรูปแบบของวรรณยุกต์รูปแบบเก่า แต่ยังอาจจะเห็นมีใช้บ้าง
◌̈ (จุดสองจุด) แบบใหม่ ᥰ เทียบ เสียงสามัญท้ายโท (ลากเสียง)
◌̌ แบบใหม่ ᥱ เทียบ เสียงเอก
◌̀ แบบใหม่ ᥲ เทียบ เสียงโท
◌̇ (จุดหนึ่งจุด) แบบใหม่ ᥳ เทียบ เสียงตรี (เสียงสั้นไม่ลากยาว)
◌́ แบบใหม่ ᥴ เทียบ เสียงจัตวา


ฝึกออกเสียงตามตัวอย่างคำ
ตัวอย่างเป็นการออกเสียง พยายามเทียบให้ใกล้เคียงกับการสะกดหรืออกเสียงในภาษาไทย อย่างไรก็ดี เราไม่จำเป็นต้องเทียบได้ตรงทุกคำพูด ให้เข้าใจเป็นแนวทางเท่านั้น เพราะเวลาได้ยินจริงๆ แต่ละคนก็จะมีสำเนียง หรือโทนเสียงที่แตกต่างกัน และอาจจะไม่สามารถเทียบแยกเป็นตัวอักษรได้ถูกต้องได้ เน้นฟังบ่อยๆ แล้วจดจำ เราก็จะเข้าใจว่าคำนั้นๆ หมายถึงหรือสื่อถึงอะไร เป็นต้น ฟังตัวอย่างเสียงด้านล่างใต้ตาราง


ข้อสังเกต ระวังสับสนระหว่างพยัญชนะตัว วา (ᥝ) กับ เสียงที่ 4 (ᥲ) ที่จะคล้ายๆ กัน สังเกตส่วนหัว ถ้าเป็นเสียงจะเป็นวงมนไม่มีเส้นขีดออกมา แต่ถ้าเป็นตัว วา (ᥝ) จะมีเส้นออกมาเล็กน้อยมุมบนซ้าย